"กฤษนะ ทัวร์ยกล้อ" พร้อม 8 ดอกเตอร์ ตะลุยเมืองมรดกโลก "เชสกี้ คลุมลอฟ"

"กฤษนะ ทัวร์ยกล้อ" และคณะ 8 ดอกเตอร์ ตะลุยเมืองมรดกโลก "เชสกี้ คลุมลอฟ" ประเทศเช็กเกีย น่าจะเป็นมนุษย์ล้อคนแรกของโลกที่ได้บุกมาที่เมืองนี้ในแบบทะลุทะลวง

แม้เมืองโบราณมรดกโลกแห่งนี้ จะมีแต่พื้นหินเรียงเป็นทางเดินเต็มไปทั่วทั้งเมือง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำหรับคนที่ใช้รถเข็นเป็นอย่างมาก แต่เมืองนี้ ก็มีบริการเส้นทางสำหรับ Tourism for All ถึงขนาดเคยประกาศกำหนดวัน Tourism for All Day โดยมีไกด์ท้องถิ่นเป็นผู้นำทาง ซึ่งผมและทีม 8 ดอกเตอร์ ประเมินสถานการณ์จากการทดลองเข็นๆกันดูแล้ว ก็คงยังยากลำบากสำหรับมนุษย์ล้ออยู่ดี เพราะไปทางไหนก็เจอแต่ทางโหดหิน 😆😆

อย่างไรก็ตาม การได้มาสัมผัสด้วยการบุกตะลุยเข้ามาในเมืองที่สวยงามและทรงเสน่ห์แห่งนี้ ก็ควรค่าแก่การลงทุนลงแรง ต้องขอขอบคุณคณะ 8 ดอกเตอร์จาก ม.นเรศวร และ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) โดยเฉพาะทีมชายฉกรรจ์ ดร.วุฒิ และ ดร.อาร์ต โดยมี ดร.ยุ้ย พลังหญิง ช่วยเป็นกำลังเสริม(เข็น+ยก)ให้เป็นระยะๆ

สรุปสิ่งที่ได้จากการมาบุกตะลุยเมืองมรดกโลก "เชสกี้ คลุมลอฟ" และหลายเมืองที่เราได้ไปสำรวจและเยี่ยมชมก่อนหน้านี้ เช่น กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงเยอรมนี กรุงปราก เมืองหลวงเช็กเกีย มาจนถึงเมืองเชสกี้ คลุมลอฟ ทำให้เราได้เห็น "โอกาส" ของประเทศไทย ในการก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำ หรือ "ประเทศจ่าฝูง‘" ในเวทีโลก ทางด้านธุรกิจการท่องเที่ยวที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง หรือการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล (Tourism for All)

เพราะเอาเข้าจริงๆ หลายๆประเทศในแถบยุโรปที่ดูจะมีชื่อชั้นทางด้านอารยสถาปัตย์ และการท่องเที่ยว Tourism for All แต่ในสภาพความเป็นจริง ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดหวัง ยังไม่สะดวกสบายและปลอดภัยสำหรับมนุษย์ล้อ หรือคนที่จำเป็นต้องใช้รถเข็นเท่าใดนัก ยังต้องยกๆแบกๆกันในหลายจุด อีกทั้งห้องน้ำสำหรับมนุษย์ล้อ ในหลายสถานที่ก็หาไม่ได้ง่ายๆ

ดังนั้น หากประเทศไทยเราตื่นตัวและเอาจริง มองเห็นโอกาสในเรื่องการขับเคลื่อนธุรกิจการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เร่งปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ นั่นคือ อารยสถาปัตย์ หรือ Friendly Design โดยรัฐบาลต้องประกาศเป็น "วาระแห่งชาติ" ประกาศไปเลยว่า เป้าหมายประเทศไทย จะต้องเป็นเมืองอารยสถาปัตย์ (เพราะอารยสถาปัตย์เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่พัฒนาแล้ว) และเป็นเมืองท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล ด้วยนโยบายที่ชัดเจนว่า Thailand Tourism for All

เพื่อให้ทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวง รวมถึงภาคธุรกิจเอกชน ได้ตระหนัก และเข้าใจ และเร่งช่วยกันออกแบบสร้างทำอารยสถาปัตย์แบบปูพรมในทุกโครงการก่อสร้างที่กำลังจะเกิดขึ้นจากนี้ไป รวมถึงการปรับปรุงตึกอาคาร สถานที่ แหล่งท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก และสถานที่สำคัญใน ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ต้องมีอารยสถาปัตย์เท่านั้น เราจึงจะเดินหน้าไปสู่เป้าหมายได้

ช่วยกันทำทางลาดที่ไม่ใช่ทางชัน ให้เชื่อมโยงทั่วถึงทั้งในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆและบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงแรม ร้านอาหาร จุดแวะพัก ฯลฯ มีบริการที่จอดรถสำหรับมนุษย์ล้อที่ต้องคอยระวังไม่ให้คนมักง่ายไปแย่งจอด มีรถทัวร์หรือรถตู้ติดลิฟต์หรือทางลาดสำหรับให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยวที่ใช้รถเข็นในทุกจังหวัด ติดตั้งลิฟต์ขึ้นลงในตึกอาคารสำคัญและ/หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มีมากกว่า 2 ชั้น และมีห้องสุขาอารยสถาปัตย์ที่สะดวก ปลอดภัย และสะอาด ให้ทั่วถึง มีป้ายสัญลักษณ์รูปวีลแชร์ตัวใหญ่ๆ ให้หาได้ง่ายๆ มีวอนนิ่งบล็อกในจุดอันตรายให้คนตาบอดได้ทราบ โดยเฉพาะในสถานีขนส่งมวลชนต่างๆ รวมถึงมีแผนที่เส้นทางท่องเที่ยว Tourism for All ในแต่ละจังหวัด

ทำเบื้องต้นเท่านี้ก่อน ผมว่าก็น่าจะเพียงพอในการประกาศความพร้อมและความตั้งใจในการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศชาติไปสู่โอกาสใหม่ๆในการเป็น "จ่าฝูง" ในฐานะประเทศท่องเที่ยวที่ทุกคน ทุกวัย ทุกสภาพร่างกาย สามารถเข้าถึงได้ในระดับสากลโลก อันจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ที่จะเกิดจากรายได้มากมายมหาศาลให้แก่พี่น้องประชาชนชาวไทย

อีกทั้ง ยังจะเป็นการเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีงาม และก้าวหน้าทันสมัย ยกระดับขึ้นสู่การ "พัฒนาแล้ว" ให้แก่ประเทศไทยในเวทีโลกอย่างงดงาม ยิ่งใหญ่ และยั่งยืน นะครับผม